สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกยุคใหม่ ยุคที่การเที่ยวด้วยตัวเอง ง่ายกว่าการไปเที่ยวกับทัวร์ นี่ไม่ใช่คำพูดเล่นๆ แต่อยากจะบอกจริงๆ ค่ะ ว่าในปัจจุบันการเที่ยวด้วยตัวเองเป็นเรื่องง่ายมากๆ มีข้อมูลให้เราเตรียมตัวมากมายในอินเตอร์เน็ต แถมเทคโนโลยีในปัจุบันยังอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้เราได้มาก ทั้งการค้นหาลายแทงจาก Pantip หรือการเดินตามแผนที่ Google Map รวมถึง App สอนการเดินทางด้วยรถไฟฟ้ามากมาย นอกจากการเที่ยวด้วยตัวเองจะให้ความสุขและความสนุกในการออกไปท่องเที่ยวแล้ว ขิงเย่ Vacation on ก็อยากจะบอกว่าการออกไปเที่ยวด้วยตัวเองยังมีข้อดีอย่างอื่นอีก ที่เราจะได้ไปแบบไม่รู้ตัว ไปเริ่มกันเลยค่ะ
ข้อที่ 1 ได้ฝึกการวางแผน
การไปเที่ยวด้วยตัวเองจำเป็นมากๆ ในการหาข้อมูลก่อนจะออกเดินทางไปเที่ยวจริง เริ่มจากเราต้องวางแผน หาสถานที่เที่ยว จำนวนวันที่จะไป ราคาตั๋วเครื่องบิน หาที่พัก วางแผนการเดินทาง ควบคุมค่าใช้จ่าย และอีกมากมายที่เราต้องเป็นคนรวบรวมข้อมูลเอง พอฟังขิงพูดมาถึงตัวนี้ทุกคนอย่าพึ่งถอนหายใจนะคะ เพราะถึงแม้จะฟังดูเยอะแต่มันจะฝึกเราให้เริ่มรู้จักวางแผน เรียงลำดับก่อนหลัง การคิดหาแผนสำรอง และส่วนตัวขิงคิดว่าขั้นตอนนี้มีความสนุกมากที่สุด
ข้อที่ 2 ได้ฝึกการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
ปัญหาไม่ว่าใครก็ไม่อยากเจอใช่ไหมคะ แต่ปัญหาก็มักจะเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าคนจะไม่ต้องการไม่เว้นแม้แต่ในเรื่องท่องเที่ยว แต่เราสามารถป้องกันและหาทางแก้ไขได้ ถ้าเรามีข้อมูลที่มากพอจริงไหมคะ ปกติปัญหาที่เกิดขึ้นให้เราแก้เฉพาะหน้ามากที่สุดเวลาเราไปเที่ยวก็คือการหลงทาง ซึ่งเป็นเรื่องปกติและทุกคนเคยหลงทางค่ะ แต่ก็จะเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ช่วยฝึกเรา ว่าเราควรทำยังไงต่อดี แก้ปัญหาอย่างไรให้เร็วที่สุด ไหนๆ ก็หลงทางไปแล้ว ป้ายรถที่ใกล้ที่สุดคือที่ไหน เราจะออกจากตรงนี้ยังไง นอกจากทางที่เตรียมมาแล้ว จะเปลี่ยนแผนการเดินทางไหม หรือจะเปลี่ยนที่เที่ยวไปเลย เอายังไงดีนะ ทุกอย่างล้วนเป็นการฝึกฝนการแก้ปัญหาให้เราได้ทั้งหมดเลยค่ะ
การแก้ปัญหาแบบนี้ ในชีวิตจริง โดยเฉพาะการทำงานที่เราชำนาญ เราแทบจะเคยชินกับการแก้ปัญหาแบบเป็น Pattern คือแทบจะไม่ได้คิดการแก้ด้วยตัวเองเลย แต่การออกไปเที่ยวต่างประเทศ ไปในที่ที่เราไม่เคยไป จะบังคับตัวเราเองให้พบกับปัญหา และบังคับตัวเราเองให้ต้องแก้ปัญหาในขณะนั้น นี่แหละคือข้อดีในข้อเสียที่ขิงอยากจะบอกค่ะ
ข้อที่ 3 ได้ฝึกความอดทน
แน่นอนค่ะว่าการไปเที่ยวด้วยตัวเองไม่สบายเท่าทัวร์แน่นอน ไม่มีรถไปส่งถึงที่ ไม่มีรถรอรับหลังจากเที่ยวเสร็จ ไม่มีคนช่วยแก้ปัญหา ด้วยเหตุการณ์บังคับแบบนี้ จึงเป็นการฝึกความอดทนของเราที่จะเดินทางไปที่เที่ยวให้ถึง บางที่อาจเดินไกล บางที่อาจต้องปีนป่าย แต่นี่แหละคือเสน่ห์ของการไปเที่ยวด้วยตัวเองค่ะ หลังจากคุณไปเที่ยวต่างประเทศ (ที่ใหม่ๆ) ด้วยตัวเองกลับมา รับรองเลยว่า ความอดทนของคุณในการใช้ชีวิตจริง จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ข้อที่ 4 (อาจ) ได้เจอเพื่อนใหม่
ข้อนี้อาจมีคนเถียงว่าไปกับทัวร์ก็รู้จักได้ ขิงก็ไม่ปฏิเสธนะคะว่าไม่จริง แต่จากระสบการณ์ของขิง (ขิงก็เคยไปเที่ยวกับทัวร์หลายรอบอยู่นะคะ) แม้เป็นการไปทัวร์กับกรุ๊ปเล็กและเที่ยวในประเทศ แต่ลักษณะการเที่ยวของกรุ๊ปทัวร์จะเดินพูดคุยแต่กับกลุ่มที่สนิทของตนเอง มีน้อยคนมากที่จะออกจากกลุ่มมาทักทายคนใหม่ๆ ดังนั้นการไปเที่ยวด้วยตัวเองจึงมีโอกาศมากกว่าที่เราจะเจอคนใหม่ๆ ทำให้เรากล้าเข้าไปพุดคุยกับคนแปลกหน้า โดยเฉพาะเวลาที่เรามีโอกาสได้พักโฮสเทล
หากใครยังไม่รู้ ถ้าไปพักโฮสเทล (Hostel) ส่วนใหญ่ราคาจะรวมอาหารเช้าให้แล้ว และจะได้นอนรวมกันในห้อง ถึงแม้จะเตียงใครเตียงมัน แต่ห้องน้ำก็ต้องใช้รวมกันนะ และที่สำคัญคือ อาหารเช้าเนี่ย คือตัวสร้างสัมพันธ์อันดีเลยค่ะ เพราะว่าต้องกินรวมกันจากเค้าเตอร์เดียวกัน ถ้าใครอยากได้เพื่อน ก็สามารถไปทักทายกันในช่วงเวลานี้ได้เลย เพราะสุดท้ายหลังจากกินข้าวเช้าแล้ว แต่ละคนก็ต้องแยกย้ายกันไปเที่ยวอยู่ดีแหละ
ด้วยสถานการณ์บังคับ ในเรื่องการใช้ชีวิต อาจจะทำให้เราได้เพื่อนใหม่กินมื้อเช้าร่วมกันจำนวนมาก สิ่งที่ต้องทำมีเพียงอย่างเดียวคือการกล้าที่จะกล่าวทักทายพูดคุย ไม่แน่เพื่อนเดินทางทริปต่อไปของคุณอาจจะ มาจากอีกฝากโลกก็ได้
ข้อที่ 5 เที่ยวด้วยตัวเองเวลาหยืดหยุ่นกว่า
ตรงประเด็นชัดเจนมากว่า เวลาเราไปเที่ยวด้วยตัวเอง เราจะกำหนดเวลาเดินทางของเราตอนไหนก็ได้ แต่ถ้าเราไปเที่ยวเป็นกลุ่มหรือทัวร์ เราจะต้องตื่น กิน นอน เป็นเวลา บางคนอาจประสบปัญหา ว่าบางที่อยากอยู่นานกว่านี้ ปัญหาต่างๆ จะหมดไปถ้าเราไปเที่ยวด้วยตัวเอง เราสามารถยืดเวลาให้ตัวเองได้อีกนิดหน่อยก่อนไปที่เที่ยวต่อไป เพราะความสวยงามของการเที่ยวด้วยตัวเอง ไม่ได้อยู่ที่จำนวนสถานที่ ที่ต้องไปให้ครบ แต่มันอยู่ที่ประสบการณ์ ที่เราพบเจอในระหว่างเดินทาง ประสบการณ์ที่จะช่วยสอนให้เรารู้จักชีวิต รู้จักตัวเราเองได้มากกว่าเดิม
ข้อที่ 6 ได้ฝึกภาษาอังกฤษ และภาษาถิ่น
แน่นอนว่าเราไปเที่ยวต่างประเทศใช่ไหมคะ สมมติถ้าไปกับทัวร์บอกได้เลยว่าภาษาหลักที่ใช้คือ “ภาษาไทย” แน่นอน เพราะการไปกับทัวร์ สมองเรามักจะต้องการความปลอดภัย มีไกด์ทัวร์นำทาง เราจะฟังแต่ภาษาไทยเป็นหลัก แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราไปเที่ยวด้วยตัวเอง ภาษาหลักที่เราใช้ย่อมไม่ใช่ภาษาไทยแน่นอน สถาณการณ์นี้จะบังคับให้เราใช้ภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษากลางไปโดยปริยาย และอีกภาษาที่เราอาจได้มาคือภาษาท้องถิ่นของประเทศเหล่านั้นที่เราเดินทางไป
จะเล่าประสบการณ์ของขิงให้ฟังค่ะ ตอนไปญี่ปุ่นด้วยตัวเอง เวลาไปร้านสะดวกซื้อ แน่นอนว่าต้องทำเองหมดเลย ทั้งหยิบของ ชำระเงิน รับทอนเงิน ฯลฯ เราจะพบกับคำพูดคุ้นหูเลยคือ すみません (Sumimasen) พนักงานเวลาไปจัดของอยู่ หรือบริการช้า หรือร้านยังไม่เปิด เขาจะพูดคำนี้ย้ำๆ ไปตลอดเลย จนจำขึ้นหูเลยค่ะ มีอีกช่วงเวลาคือ ตอนขิงไปซื้อเบียร์กับสาเก (อิอิ) จ่ายเงินแล้ว พนักงานพูดอะไรไม่รู้ซักอย่าง ขิงก็ไม่เข้าใจ จนสุดท้ายเขาชี้ไปที่หน้าจอคอมหน้าเค้าเตอร์จ่ายเงิน มันมีปุ่มให้กดค่ะ [ซ้าย: ยืนยันอายุ 18+] [ขวา: ยืนยันอายุ ไม่ถึง 18] เราก็อ๋อทันทีเลยว่า เขาให้ยืนยันอายุ พอไปซื้อสินค้าประเภทนี้ครั้งหลังๆ ขิงก็กดที่หน้าจอเลยค่ะ ไม่ต้องรอให้พนักงานบอก 555+
แต่หลายคนฟังแบบนี้แล้วก็จะบอกว่าไม่เก่งภาษาอังกฤษจะทำยังไงดี ขิงอยากให้ทุกคนเปิดใจว่าภาษาอังกฤษแบบเราก็ไปเที่ยวได้ คำศัพท์พื้นฐานก็ทำให้เราอยู่รอดได้ และในปัจจุบันมีเทคโนโลกยีแปลภาษาในสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะ App แปลภาษาต่างๆ ช่วยเราอีก ทำให้เราได้ภาษาเพิ่มขึ้นจริงๆ นะ
ข้อที่ 7 ได้รู้จักบริหารงบการเงิน
เวลาไปเที่ยวเราก็ต้องใช้เงินถูกต้องไหมคะ ทีนี้ถ้าเราไปเที่ยวกับทัวร์เราจ่ายทีเดียวก็จบ แทบจะทุกค่าใช้จ่ายหลัก ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่ากิน ท่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว ไม่ต้องจ่ายอะไรอีกแล้วนอกจากซื้อของส่วนตัว แต่ถ้าเราต้องไปเที่ยวด้วยตัวเองเราจะต้องวางแผนว่า เราจะเอาเงินไปใช้กับอะไรบ้าง อันไหนมากไป อันไหนน้อยไป เป็นการฝึกการบริหารจัดการเงินได้อย่างดี แต่สิ่งที่ได้แล้ว ไม่ได้อยู่ในกระบวนการวางแผนค่ะ มันอยู่ที่หน้างานจริงมากกว่า การเที่ยวด้วยตัวเอง เราจะควบคุมเงินในกระเป๋าเราได้ 100% ยกตัวอย่างเช่น เมื่อไปถึงสถานที่จริง เราจำเป็นต้องเช่าจักรยานปั่น ร้านเขาก็จะมีให้เลือกว่า จะเอาจักรยานธรรมดา หรือเอาแบบจักรยานไฟฟ้า ราคาก็ต่างกัน ทีนี้เราต้องดูงบในกระเป๋าแล้วค่ะ ว่าสิ่งนั้นจำเป็นไหม หรือประหยัดได้เอาเงินไปซื้ออย่างอื่นดีกว่า หรือยอมจ่ายเพื่อความสะบายไหม
ข้อที่ 8 ได้เป้าหมายและพลังงานใหม่ๆ
หลังจากการไปเที่ยวเราจะได้รับพลังงานที่ดีใหม่ๆ ในการใช้ชีวิตมากขึ้น อาจทำให้เรามีการตั้งเป้าหมายใหม่ให้ตัวเอง ทั้งเป้าหมายเล็ก หรือการตั้งหมายว่าเราจะกลับไปเที่ยวที่ที่เรายังไม่ได้ไปอีก เป็นพลังงานที่ทำให้เรามีแรงฮึดในการทำงานค่ะ เช่น สมมติรอบนี้เราไปพักโรงแรมราคา 1,500/คืน แล้วดันไปเห็นโรงแรมข้างๆ ที่หรูหรามากๆ จึงทำให้เราเกิดความอยากค่ะ พูดกับตัวเองในเบื้องลึก ว่าครั้งหน้านะฉันต้องมาพักโรงแรมหรูกว่าเดิมให้ได้นะ
ข้อที่ 9 ได้รู้จักตัวเองและความชอบของตัวเอง
เคยไหมที่ไม่รู้ว่าเราชอบอะไร ทำงานเพื่อเงินไปวันๆ ข้อนี้จึงเป็นข้อที่สำคัญมากที่ขิงคิดว่าทุกคนน่าจะได้จากการไปเที่ยวด้วยตัวเอง เพราะเป็นเวลาที่เราจะได้รู้จริงๆ ว่า เราชอบเที่ยวแบบนี้ไหม หรือเราชอบเที่ยวกับทัวร์มากกว่า ประสบการณ์การไปเห็นสิ่งใหม่ๆ เห็นอาชีพใหม่ๆ เห็นโลกใบใหม่ๆ ที่ในประเทศไทยไม่มี อาจทำให้เราได้ค้นพบตัวเราเอง ว่าเราชอบหรืออยากลองทำสิ่งนั้นๆ ไหม เพราะไม่มีแบบไหนถูกหรือผิด หรือแบบไหนดีที่สุด ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความชอบของเรา ถ้าเราได้คำตอบว่าเราชอบอะไร ก็น่าจะเกิดจากการเที่ยวด้วยตัวเองนี่แหละค่ะ
ทั้งหมดก็คือข้อดีจากการไปเที่ยวด้วยตัวเองที่ ขิงเย่ Vacation On รวบรวมมาให้ทุกคนได้อ่านกันนะคะ และสุดท้ายอย่าลืมให้ชีวิตของเราได้เจอกับความตื่นเต้นใหม่ๆ เจอกับความท้าทายที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ด้วยการลองออกไปเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเอง ไปกับแฟน ไปกับเพื่อน ไปกับคนรัก ไปเจอประสบการณ์ทั้งดีและไม่ดี ให้ชีวิตได้รู้จักตัวเราเอง ได้พัฒนาตัวเอง และได้พบเจอสิ่งใหม่ๆ ที่ประเทศไทยเราไม่มีนะคะ