จองโรงแรมก่อนไป หรือไปเที่ยวก่อนค่อยจอง แบบไหนเหมาะสม และมีข้อดีมากกว่ากัน

การจองที่พักเวลาเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเป็นเรื่องที่หลายๆ คนมักจะมีคำถามอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น พักที่ไหนดี พักแบบไหนดี ต้องจองไปก่อนเลยดีไหม หรือคำถามที่ว่าไว้ไปถึงประเทศนั้นๆ แล้วค่อยหาที่พักได้หรือไม่ ซึ่งในแต่ละคำถามเหล่านั้นก็มักมีคำตอบที่แตกต่างกันไปตามประสบการณ์ของผู้มาตอบ แต่ในวันนี้ขิงเย่ Vacation On ได้ทำการรวบรวม ข้อดี-ข้อเสีย ของทั้งการจองโรงแรมล่วงหน้าก่อนไป และการไปถึงที่ประเทศนั้นแล้วค่อยจองที่พัก มาให้ทุกคนพิจารณาไปพร้อมๆ กันค่ะ

จองโรงแรมก่อนไปเที่ยว

การจองโรงแรมก่อนไปเที่ยว หลักๆ ที่รู้กันเลย คือการป้องกันความเสี่ยง ที่จะไม่ได้ที่พัก สำหรับกรณีเดินทางช่วงวันหยุดยาว หรือช่วงเทศกาล โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ ตรุษจีน แบบนี้แนะนำเลยว่า “จำเป็น” อย่างยิ่งที่ต้องจองล่วงหน้า

ข้อดี

1. มีที่พักแน่นอน ทั้งตำแหน่งที่พักและรูปแบบที่พัก หมดหวงเรื่องที่พักเต็ม โดยเฉพาะแถวๆ รอบๆ สถานที่เที่ยวสำคัญ ที่นักเดินทางจากทั่วมุมโลกอยากจะไป
2. วางแผนในการเดินทางท่องเที่ยวได้แม่นยำมากขึ้น เพราะว่าที่พักถูกกำหนดไว้แล้ว การเที่ยวเรานั้นจะมีแบบแผน ตารางเวลาที่ชัดเจน เพราะสุดท้ายคืนวันนั้นต้องกลับเข้าที่พักที่จองไว้
3. ราคาถูกว่าไปจองหน้างาน การจองออนไลน์ล่วงหน้า จะได้ราคาถูกกว่าการจองกับโรงแรมในวันนั้นๆ ทำให้เราประหยัดเงิน ประหยัดงบในการเที่ยวได้เยอะเลย
4. ยืดหยุ่นเวลาที่เข้าพักได้ บางโรงแรมจะเปิดให้เช็คอินตามเวลาที่กำหนด แต่การจองล่วงหน้า สามารถแจ้งให้โรงแรมทราบได้ว่า เราจะไปถึงเวลาไหน แล้วจะแก้ไขอย่างไรเมื่อไม่ตรงกับเวลาเข็คอินของโรงแรม
5. ได้ส่วนลดพิเศษจากหลายๆ ที่ การจองโรงแรมล่วงหน้า นอกจากจะราคาถูกแล้ว ยังสามารถนำส่วนลดต่างๆ มาลดค่าห้องได้อีก ทั้งโปรโมชั่นจากบัตรเครดิต และจากค่ามือถือ
6. อาจได้สิทธิ์ในการอัพเกรดห้องถ้าเข้าพักในช่วงโลว์ซีซั่น แน่นอนว่าการจองล่วงหน้ามีโอกาสได้อัพเกรดห้องมากกว่าการ Walk-in เข้าไปจอง ณ เวลานั้นเลย เพราะ (หากใครยังไม่รู้) หลักการอัพเกรดห้องจะให้อำนาจกับพนักงานตัดสินใจ และหนึ่งในตัวเลือกในการตัดสินใจก็คือ “ควรจะเป็นลูกค้าที่จองมาก่อน ไม่ใช่ลูกค้า Walk-in”

ข้อเสีย

1. เปลี่ยนแปลงวันเข้าพักได้ยาก ใช่ค่ะจองมาก่อนแล้ว จะเปลี่ยนแปลงอาจต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
2. ต้องชำระเงินล่วงหน้า แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่ต้องแล้วนะคะ ข้อนี้แล้วแต่ผู้ให้บริการการจองค่ะ ว่ามีตัวเลือกให้ลูกค้าไหม ทั้งการจ่ายเงินทันที หรือมาจ่าย ณ วันที่เข้าพัก หรือตัดบัตรเครดิต 30 วันก่อนเข้าพัก
3. อาจไม่ใช่ราคาที่ถูกที่สุด ฮั่นแน่! มันย้อนแย้งใช่ไหมคะ แต่กรณีนี้โอกาสเกิดน้อยค่ะ ยกตัวอย่างนะคะ สมมติเราจองโรงแรม A ล่วงหน้า 3 เดือนบนเว็บไซต์ Agoda แต่ก่อนจะเข้าพัก 1 เดือน ทางโรงแรมเห็นว่าห้องว่างเยอะ จึงออกโปรลดราคาแรงมาช่วง 1 เดือนก่อนเข้าพัก ทำให้เราที่จองล่วงหน้าได้ราคาแพงกว่าคนที่กำลังจองค่ะ
4. ขยายเวลาเข้าพักที่เดิมไม่ได้ การจองล่วงหน้า คือการระบุวันเข้าพัก-วันออก ตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว ดังนั้นหากใกล้ถึงวันเข้าพัก แล้วเกิดเปลี่ยนใจอย่ากอยู่นานขึ้น แต่คนเข้าพักเยอะจริงๆ แบบนี้อาจขยายเวลาไม่ได้ค่ะ

จองเมื่อไปถึงที่เที่ยว

การไปถึงที่เที่ยวแล้วหาโรงแรมนอน หรือเที่ยวเสร็จค่ำไหนนอนที่พักแถวนั้น ในปัจจุบันถือว่ามีเป็นส่วนน้อยค่ะ เพราะจากข้อเสียด้านบน โดยเฉพาะเรื่องของ “ราคา” ที่จะสูงกว่าการจองล่วงหน้า แต่ก็ยังมีข้อดีแฝงค่ะ ที่หลายคนยังไม่รู้

ข้อดี

1. ไม่ต้องเสียเงินล่วงหน้า ใช่เลยบางคนจองล่วงหน้า 2 เดือน ต้องเอาเงินไปให้โรงแรมก่อน 2 เดือน แปลว่าเงินจะจม ทั้งๆ ที่ในเวลา 2 เดือนนั้นเราอาจมีเหตุต้องใช้เงิน หรือต้องนำเงินไปลงทุนอย่างอื่นได้อีก
2. หยืดหยุ่นในการเที่ยวและการเข้าพักได้ เคยเที่ยวแบบ เปลี่ยนใจง่ายไหมค่ะ เช่น ตอนแรกวางแผนไปเที่ยวฟูจิ 1 วัน แต่พอเดินทางไป แล้วไปเที่ยวจริงๆ นั้น ทำให้รู้ว่าเก็บที่เที่ยวได้ไม่หมด อยากจะพักต่อที่นี่อีก 1 คืน แล้วเที่ยวต่ออีก 1 วัน แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะจองโรงแรมของวันต่อไปไว้แล้วที่ในเมือง
3. ได้เห็นสถานที่จริงก่อนเข้าพัก โรงแรมหลายที่ การเดินทางเข้าไปลำบาก หรืออยู่ห่างไกลเกินไป แต่หากไปจองหน้างาน จะทำให้เราเห็นสถานที่ก่อนที่เราจะจองค่ะ
4. มีโอกาสได้ราคาถูกกว่าเว็ปจองโรงแรม ข้อนี้อาจย้อนแย้งกับข้อด้านบนนะคะ แต่บางประเทศ ในโซนห่างไกล บางที่พัก บางโรงแรม ไม่มีอยู่ใน Agoda หรือ Booking นะคะ คือเขาไม่รับจองผ่านตัวแทน แล้วส่วนใหญ่ที่พักที่ว่ามานี้ จะมีราคาถูกกว่าท้องตลาดค่ะ

ข้อเสีย

1. ผ่าน ตม. ยาก เพราะไม่มีเอกสารยืนยันที่พักแน่นอน ข้อนี้อันตรายมากค่ะ เพราะว่าตอนกรอกเอกสารขาเข้าประเทศ เราจะต้องกรอกชื่อที่พัก แต่หากเราไม่ได้จองล่วงหน้า หรือกรอกมั่วๆ แล้วเขาจับได้ขึ้นมา แบบนี้มีโอกาสสูงที่จะโดนไล่กลับประเทศ แล้วโดนแบนไม่ให้เข้าประเทศนี้อีกค่ะ
2. เสี่ยงต่อการไม่ได้ที่พักที่ต้องการ การไปหาที่พักหน้างาน อาจได้ห้องที่ไม่ต้องการ (เพราะห้องส่วนใหญ่ถูกจองไว้หมดแล้ว) หรืออาจต้องถูกบังคับจ่ายห้องใหญ่ ห้องแพง เพราะว่าห้องเล็กๆ ถูกจองล่วงหน้าแล้ว
3. ราคาแพงกว่าจองล่วงหน้า ราคาหน้าที่พัก (ถ้าที่พักนั้นมีบน Agoda/Booking) จะเป็นราคาเต็มค่ะ โดยส่วนมากราคาจะแพงกว่าราคาบนเว็บไซต์ เพราะโรงแรมต้องทำราคาให้แพงกว่าเอเจนซี่/ตัวแทนที่เอาห้องไปขายจริงไหมคะ ถ้าราคาหน้าโรงแรมขายถูกกว่าราคาที่ตัวแทนเอาไปขาย แล้วตัวแทนไหนจะยอมขายให้หละ
4. ยากต่อการควบคุมงบเที่ยว คุมงบเที่ยวลำบากค่ะ เพราะค่าที่พักไม่ได้ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า บางทีอาจได้แพง บางทีอาจได้ถูก ขึ้นอยู่กับดวงล้วนๆ เลย
5. เสียเวลาสอบถามราคา สำหรับคนงบน้อย เวลาจะพักที่โรงแรม เรามักจะเปรียบเทียบราคาก่อนเสมอ บางทีโรงแรมข้างกัน ราคาต่างกันคืนละหลายพันบาทก็มี ถ้าจองออนไลน์เทียบราคาง่ายมาก แต่ถ้าไปจองเมื่อไปถึงแล้ว ต้องไล่เดินถามแต่ละโรงแรม เพื่อเทียบราคาอีกนะ
6. ยากต่อการสื่อสารหากไม่เก่งภาษาอังกฤษ การจองออนไลน์ล่วงหน้า เราคุยกับระบบ (มีแปลไทยให้ด้วย) แล้วกดจองเลย พอมาถึงก็แค่ยื่นเอกสารก็เข้าพักได้ แต่ถ้าไปจองหน้างานเมื่อไปถึง ทีนี้ต้องเกิดการสนทนาระกว่าง ประเภทห้อง ค่าห้อง จะอยู่กี่วัน เช็คอินกี่โมง จะเอาแพคเกจอาหารเช้าไหม ฯลฯ

การจองโรงแรมทั้งสองแบบมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบที่แตกต่างกัน และเมื่อเราเห็นข้อดีข้อเสียของแต่ละแบบไปแล้วน่าจะช่วยให้ทุกคนตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะคะ ว่าเราควรเลือกการจองที่พักตอนไหนดีในการไปเที่ยวต่างประเทศของเรา เพื่อให้เป็นทริปที่สนุกและมีความสุขอย่างเต็มที่